การตกแต่งภายในบ้านในแต่ละสไตล์ มักสะท้อนถึงวัฒนธรรมและความชอบของผู้คนในแต่ละประเทศ สไตล์อังกฤษและฝรั่งเศสเป็นสองสไตล์ยอดนิยมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว แม้จะมาจากยุโรปเหมือนกัน แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การตกแต่งภายในสไตล์อังกฤษจะดูอบอุ่น สุขุม และคลาสสิก มักใช้โทนสีเข้ม เฟอร์นิเจอร์ไม้ และลวดลายแบบวินเทจ ส่วนสไตล์ฝรั่งเศสจะดูอ่อนหวาน อ่อนโยน และหรูหรา ใช้สีพาสเทล เส้นสายอ่อนโค้ง และของตกแต่งที่ดูประณีต ซึ่งบทความนี้จะพาไปดูว่า ทั้งสองสไตล์นี้แตกต่างกันอย่างไร ทั้งในเรื่องของสี วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และบรรยากาศที่ถ่ายทอดออกมา เพื่อช่วยให้คุณเลือกตกแต่งบ้านได้ตรงใจมากที่สุด
การตกแต่งภายในสไตล์อังกฤษนั้นมักจะสะท้อนถึงความอบอุ่น สุขุม และมีระเบียบ ทุกองค์ประกอบของการตกแต่งเน้นความหนักแน่น ความมั่นคง และความคลาสสิกเหนือกาลเวลา โทนสีที่ใช้มักจะเป็นสีเข้มลึก เช่น น้ำเงินกรมท่า เขียวมะกอก น้ำตาลวอลนัต หรือเบอร์กันดี ผสมผสานกับสีครีมหรือเบจเพื่อเพิ่มความอบอุ่น การใช้ไม้เข้มเป็นวัสดุหลัก เช่น ไม้โอ๊คหรือไม้มะฮอกกานี สะท้อนถึงความหรูหราและความคงทน เฟอร์นิเจอร์มีลักษณะบุนวม มีรายละเอียดการแกะสลัก ลวดลายดอกไม้หรือเส้นโค้งแบบเรขาคณิต ผนังนิยมใช้วอลเปเปอร์ลายดอกไม้ ลายพฤกษา หรือสีทึบที่มีบัวไม้เป็นกรอบ ส่วนพื้นที่อย่างห้องนั่งเล่นหรือห้องสมุดมักประดับด้วยตู้หนังสือ เตาผิง และโคมไฟแชนเดอเลียขนาดใหญ่ เพิ่มกลิ่นอายของชนชั้นสูงในยุควิกตอ เรียนอย่างชัดเจน
ในทางตรงกันข้าม การตกแต่งภายในสไตล์ฝรั่งเศสโดยเฉพาะแบบ “French Country” หรือ “Provençal” จะเน้นบรรยากาศที่อ่อนหวาน สว่างไสว และโรแมนติก การตกแต่งในแนวนี้นิยมใช้สีโทนอ่อน เช่น ขาวครีม เทาอ่อน ฟ้าพาสเทล เหลืองนวล หรือชมพูซีด ซึ่งช่วยให้พื้นที่ดูปลอดโปร่งและมีชีวิตชีวา วัสดุที่ใช้มักเป็นไม้เนื้ออ่อน งานเหล็กดัด ผ้าลินินหรือผ้าฝ้ายธรรมชาติ และมีการตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้เล็ก ๆ แบบชนบท เฟอร์นิเจอร์ฝรั่งเศสมักมีรูปทรงโค้งมน อ่อนช้อย และมีรายละเอียดการแกะสลักที่เน้นความประณีต แต่ไม่ถึงกับหรูหราเกินไป ผนังมักเป็นฉาบปูนเรียบ ทาสีอ่อน และมีบัวปูนปั้นที่เรียบง่าย ไม่เน้นลวดลายซับซ้อนเหมือนแบบอังกฤษ การจัดแสงภายในนิยมใช้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ผ้าม่านโปร่ง และเฟอร์นิเจอร์น้ำหนักเบาที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและใกล้ชิดธรรมชาติ
หากเปรียบเทียบในแง่ของการใช้งาน สไตล์อังกฤษให้ความสำคัญกับความเป็นระเบียบ การจัดวางที่สมดุล และความสมบูรณ์แบบขององค์ประกอบ เช่น ห้องอาหารที่แยกเป็นสัดส่วน มีโต๊ะอาหารขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้เข้าชุด บรรยากาศเหมาะแก่การรับแขกหรือจัดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ ในขณะที่สไตล์ฝรั่งเศสมักผ่อนคลายและมีความเป็นกันเองมากกว่า พื้นที่ถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกันอย่างลื่นไหล เช่น ห้องครัวที่เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารและเปิดสู่สวนหรือเฉลียงนอกบ้าน เพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตกลางแจ้งและการรวมตัวของครอบครัวในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ
ในแง่ของแรงบันดาลใจและแนวคิดเบื้องหลังการตกแต่งภายใน สไตล์อังกฤษได้รับอิทธิพลจากการออกแบบยุคเรอเนสซองซ์ ยุคจอร์เจียน และวิกตอเรียน ซึ่งเน้นความภูมิฐานและการเก็บรักษาประวัติศาสตร์ไว้ในบ้าน เราจะเห็นของตกแต่งที่เป็นมรดกตกทอด เช่น นาฬิกาตั้งพื้น ภาพวาดสีน้ำมัน หรือหนังสือเก่า ในขณะที่สไตล์ฝรั่งเศสเน้นความงามตามธรรมชาติ การใช้ชีวิตเรียบง่ายในชนบทของฝรั่งเศสตอนใต้ เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ตกแต่งเกินความจำเป็น เช่น ผนังปูนเปลือย พื้นไม้ที่ไม่เคลือบเงา และเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเหมือนมีอายุการใช้งานจริง
แม้ทั้งสองสไตล์จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านโทนสี วัสดุ บรรยากาศ และการจัดพื้นที่ แต่ก็สามารถผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืนในงานออกแบบร่วมสมัย บ้านสไตล์อังกฤษอาจเติมความนุ่มนวลด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนอ่อนแบบฝรั่งเศส หรือบ้านฝรั่งเศสอาจเพิ่มความคลาสสิกและน่าเกรงขามด้วยของตกแต่งไม้เข้มแบบอังกฤษ การออกแบบในยุคปัจจุบันเปิดกว้างต่อการผสมผสาน ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถดึงเสน่ห์ของทั้งสองโลกมาไว้ภายใต้หลังคาเดียวกันได้อย่างลงตัว
สุดท้ายแล้ว การเลือกระหว่างสไตล์อังกฤษหรือฝรั่งเศสจึงขึ้นอยู่กับบุคลิกของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ หากคุณเป็นคนที่รักในความคลาสสิก เงียบสงบ และมีความลึกซึ้งทางวัฒนธรรม สไตล์อังกฤษอาจเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าคุณหลงใหลในความโรแมนติก ความโปร่งเบา และความเป็นธรรมชาติของชนบท สไตล์ฝรั่งเศสอาจเหมาะกับคุณมากกว่า แต่ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบไหน ความงามที่แท้จริงของการตกแต่งภายในคือการสร้างสรรค์พื้นที่ที่สะท้อนตัวตนและทำให้คุณรู้สึกว่า “นี่คือบ้าน” ตามแบบฉบับของคุณเอง
สนใจปรึกษา หรือออกแบบตกแต่งภายในตามสไตล์ที่คุณต้องการได้ที่ วาสนา แอสโซซิเอชั่น บริการรับเหมาตกแต่งภายในครบวงจร ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์โฮม-ทาวน์เฮ้าส์ เพนท์เฮาส์ ออฟฟิศ หรือออกแบบ 3D เราให้บริการออกแบบตกแต่งภายในคอนโดและบ้าน โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และดูแลจัดการอย่างเป็นระบบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ให้คำปรึกษาแนะนำ ออกแบบ ควบคุมการดำเนินงาน และส่งมอบงานอย่างมีคุณภาพ ติดต่อปรึกษาเราได้เลยวันนี้ !
สไตล์อังกฤษเน้นโทนสีเข้มลึก เช่น น้ำเงินกรมท่า เขียวมะกอก และน้ำตาลวอลนัต ใช้ไม้เข้มเป็นวัสดุหลัก เช่น ไม้โอ๊คหรือไม้มะฮอกกานี ส่วนสไตล์ฝรั่งเศสจะเน้นโทนอ่อน เช่น ขาวครีม ฟ้าพาสเทล และเหลืองนวล ใช้วัสดุไม้เนื้ออ่อน ผ้าลินิน และเหล็กดัด เพื่อให้บรรยากาศดูสว่าง สดใส และโรแมนติกมากกว่า
เฟอร์นิเจอร์สไตล์อังกฤษมีลักษณะบุนวม แข็งแรง และมักมีลวดลายแกะสลักที่ดูคลาสสิก ใช้เส้นสายแบบเรขาคณิตและวอลเปเปอร์ลายพฤกษา ส่วนเฟอร์นิเจอร์ฝรั่งเศสมักมีรูปทรงโค้งมน อ่อนช้อย และน้ำหนักเบา ตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้เล็ก ๆ และเน้นความประณีตแบบชนบท ไม่หรูหราจนเกินไป
สไตล์ฝรั่งเศสเหมาะกับผู้ที่ต้องการความโปร่งเบาและเป็นธรรมชาติ พื้นที่มักเชื่อมต่อกันอย่างลื่นไหล เช่น ห้องครัวที่เปิดสู่สวนหรือเฉลียง และมีการใช้แสงธรรมชาติร่วมด้วย ขณะที่สไตล์อังกฤษจะเน้นการจัดพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน เหมาะกับผู้ที่ชอบความเป็นระเบียบและบรรยากาศแบบอบอุ่น สุขุม
Share Article:
ค้นหาแรงบันดาลใจในการตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็นตกแต่งภายในบ้าน หรือตกแต่งภายในคอนโด ผ่านบทความที่รวบรวมไอเดีย และเทคนิคการออกแบบหลากหลายสไตล์ที่จะช่วยคุณสร้างสรรค์พื้นที่อยู่อาศัยให้สวยงามและใช้งานได้จริง สามารถติดตามเทรนด์ล่าสุด รวมถึงเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ และตัวอย่างการตกแต่งที่เหมาะกับทุกสไตล์บ้านและคอนโดของคุณ พร้อมอัปเดตเนื้อหาใหม่ ๆ เป็นประจำ เพื่อให้คุณไม่พลาดไอเดียการตกแต่งที่ดีที่สุด !
บริษัท วาสนา แอสโซซิเอชั่น จำกัด
ที่อยู่ เลขที่ 117/102 ถนนพัฒนาชนบท 4 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
© 2024 VASANA ASSOCIATION | Website Design by ARIOMARKETING CO., LTD.